สำหรับ WordPress นั้น เป็นเว็บสำเร็จรูปที่ใช้ทรัพยากรของ Server พอสมควร และลักษณะการใช้งานจะเป็นการอ่านของผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นส่วนใหญ่ และเว็บไซต์ไม่ได้มีการอัพเดตเนื้อหาตลอดเวลา วันนี้จึงมาแนะนำปลั๊กอินที่จะทำให้เว็บไซต์ของลูกค้าที่ใช้ WordPress ให้ทำงานได้เร็วขึ้นด้วยปลั๊กอินที่ชื่อว่า WP Super Cache
การติดตั้ง
- เลือกที่เมนู Plugins จากนั้นคลิกที่เมนู Add New ดังรูป
- โดยปกติแล้ว ปลั๊กอิน WP Super Cache จะแสดงเป็นตัวแรก แต่หากหาไม่เจอ ให้ค้นหาได้จากช่องค้นหา จากนั้นกดปุ่ม Install Now
- เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ให้เปิดใช้งานปลั๊กอิน โดยการกดที่ Active plugin
การตั้งค่า
- ให้เข้าไปตั้งค่า Permalink โดยไปที่เมนู Settings และคลิกเมนู Permalinks การตั้งค่าจะต้องไม่ใช้เครื่องหมาย ? ให้อยู่ใน URL โดยสามารถเลือกได้ทุกแบบ ยกเว้นแบบแรก แต่หากตั้งค่าไว้เรียบร้อยแล้ว ให้ข้ามไปยังข้อที่ 2
- เลือกที่เมนู Settings และคลิกเมนู WP Super Cache เพื่อทำการตั้งค่า
- เมื่อคลิกเข้ามาแล้ว จะอยู่ในแถบของ Easy ให้เลือกเปิดการใช้งานปลั๊กอิน โดยคลิกเลือก Caching On และกดปุ่ม Update Status
- ให้คลิกแถบ Advanced โดยให้ตั้งค่าตามตัวอย่างในแต่ละส่วนตามด้านล่างนี้
Caching
ให้เลือก Use mod_rewrite to serve cache files. ดังรูปตัวอย่าง
Advanced
คลิกเลือก Clear all cache files when a post or page is published or updated. เพื่อให้ wp super cache ทำการลบ cache ออกเมื่อมีการปรับปรุงเนื้อหา จากนั้นกดปุ่ม Update Status
- จากนั้นให้เลื่อนลงมายังส่วนของ Mod Rewrite Rules จากนั้นกดปุ่ม Update Mod_Rewrite Rules เพื่อให้มีการปรับปรุงไฟล์ .htaccess เพียงแค่นี้ WP Super Cache ก็พร้อมใช้งาน